รณรงค์ประหยัดไฟฟ้า และน้ำมันเชื้อเพลิง

รณรงค์ประหยัดไฟฟ้า

วิธีการประหยัดพลังงาน

สารพัดวิธีประหยัดไฟฟ้า ลดใช้พลังงาน… ช่วยคุณ ช่วยโลก
จากเหตุการณ์ฉุกเฉินที่รัฐอาจไม่สามารถผลิตไฟฟ้าให้เพียงพอต่อความต้องการ ใช้งาน เนื่องจากพม่าหยุดส่งก๊าซธรรมชาติให้ไทยชั่วคราว จะมีทางไหนกันที่เราจะช่วยลดการใช้ไฟฟ้าเพื่อให้ผ่านพ้นช่วยเวลาดังกล่าวได้ บ้าง
นับเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นกังวลอยู่ ใม่น้อย สาหรับการที่รัฐบาลได้ออกมาขอความร่วมมือจากประชาชน ให้ช่วยกันประหยัดไฟในช่วงเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ สืบเนื่องมาจากการที่แท่นขุดเจาะก๊าซของประเทศพม่าในแหล่งยาดานา ซึ่งเป็นแหล่งใหญ่ของไทยเกิดการทรุดตัว ชารุดเสียหาย ส่งผลให้จาต้องหยุดส่งก๊าซธรรมชาติให้ไทยชั่วคราว เพื่อเริ่มทาการซ่อมบารุงในวันที่ 4 – 12 เมษายน ซึ่งการหยุดส่งก๊าซของจากพม่าในครั้งนี้ จะทาให้ก๊าซธรรมชาติที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าของไทยหายจากระบบถึง 1,100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ประกอบกับเหตุท่อส่งก๊าซไทย-มาเลเซีย ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุการทิ้งสมอเรือ ทาให้ก๊าซหายไปจากระบบเพิ่มขึ้นอีก 270 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ได้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อการผลิตไฟฟ้าในประเทศไทย ซึ่งจาเป็นต้องใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้า ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะมีแผนรับมือกับสถานการ์ณที่เกิดขึ้นโดยการนาโรงไฟฟ้าที่ ปิดไปแล้วกลับมาใช้ใหม่ แต่นั่นก็ยังไม่สามารถผลิดไฟฟ้าให้เพียงพอต่อการใช้งานของคนในประเทศได้ เนื่องจากช่วงเวลาที่พม่าจะหยุดส่งก๊าซธรรมชาติเข้ามาในไทยชั่วคราวนั้น เป็นช่วงเวลาก่อนวันสงกรานต์ ซึ่งเป็นช่วงที่โรงงานอุตสาหกรรมจะเร่งกระบวนการผลิตก่อนวันหยุดยาว อีกทั้งยังเป็นช่วงฤดูร้อนที่ประชาชนมันจะใช้ไฟมากกว่าปกติอีกด้วย ทาให้อาจะเกิดปัญหาตามมาคือ “ไฟดับ” ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อภาคอุตสาหกรรม
จากสิ่งเหล่านี้ ทาให้กระทรวงพลังงานได้เตรียมประกาศภาวะฉุกเฉิน เพื่อขอความร่วมมือจากประชาชนและหน่วยงานทุกภาคส่วน ให้ช่วยกันประหยัดการใช้พลังงานในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถดาเนินงานไปต่อได้ตามปกติ ทั้งยังจะทาให้คนทั้งประเทศสามารถใช้พลังงานได้อย่างไม่มีสะดุด
อย่างไรก็ตาม จริง ๆ แล้ว สาหรับการประหยัดไฟนั้น เป็นเรื่องที่พวกเราทุกคนควรจะร่วมมือกันทาเป็นปกติอยู่แล้วในทุก ๆ วัน ไม่ใช่เพียงการประหยัดแค่เฉพาะช่วงที่เกิดเหตุฉุกเฉิน นั่นเพราะว่าการประหยัดไฟ นอกจากจะเป็นการช่วยชาติ ช่วยรักษาเงินในกระเป๋าของเราแล้ว ยังเป็นการช่วยโลกอีกต่างหาก ซึ่งการประหยัดไฟ ก็เป็นสิ่งง่าย ๆ ใกล้ตัวที่เราสามารถทาได้กันทุกคนอยู่แล้ว ว่าแต่จะมีวิธีไหนบ้างนั้น วันนี้เรามีมาบอกกันจ้า


วิธีประหยัดไฟ
1. ปิดสวิตซ์ไฟ และเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดเมื่อเลิกใช้งาน ดับไฟทุกครั้งที่ออกจากห้อง
2. เลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน ดูฉลากแสดงประสิทธิภาพให้แน่ใจทุกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ หากมีอุปกรณ์ไฟฟ้าเบอร์ 5 ต้องเลือกใช้เบอร์ 5
3. ปิดเครื่องปรับอากาศทุกครั้งที่จะไม่อยู่ในห้องเกิน 1 ชั่วโมง สาหรับเครื่องปรับอากาศทั่วไป และ 30 นาที สาหรับเครื่องปรับอากาศเบอร์ 5
4. หมั่นทาความสะอาดแผ่นกรองอากาศของเครื่องปรับอากาศบ่อย ๆ เพื่อลดการเปลืองไฟในการทางานของเครื่องปรับอากาศ
5. ตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่ 25 องศาเซลเซียส
6. ไม่ควรปล่อยให้มีความเย็นรั่วไหลจากห้องที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ตรวจสอบและอุดรอยรั่วตามผนัง ฝ้าเพดาน ประตูช่องแสง และปิดประตูห้องทุกครั้งที่เปิดเครื่องปรับอากาศ
7. ลดและหลีกเลี่ยงการเก็บเอกสาร หรือวัสดุอื่นใดที่ไม่จาเป็นต้องใช้งานในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ เพื่อลดการใช้พลังงานในการปรับอากาศ
8. ใช้มู่ลี่กันสาดป้องกันแสงแดดส่องกระทบตัวอาคาร และบุฉนวนกันความร้อนตามหลังคาและฝาผนัง เพื่อไม่ให้เครื่องปรับอากาศทางานหนักเกินไป
9. ควรปลูกต้นไม้รอบ ๆ บ้าน เพราะต้นไม้ขนาดใหญ่ 1 ต้น ให้ความเย็นได้เท่ากับเครื่องปรับอากาศ 1 ตัน
10. ควรปลูกต้นไม้เพื่อช่วยบังแดดข้างบ้านหรือเหนือหลังคา เพื่อเครื่องปรับอากาศจะไม่ต้องทางานหนักเกินไป
11. ปลูกพืชคลุมดินเพื่อช่วยลดความร้อน และเพิ่มความขึ้นให้กับดิน จะทาให้บ้านเย็นขึ้นไม่จาเป็นต้องเปิดเครื่องปรับอากาศ
12. หากอากาศไม่ร้อนเกินไป ควรเปิดพัดลมแทนเครื่องปรับอากาศ จะช่วยประหยัดไฟได้มาก
13. ใช้หลอดไฟประหยัดพลังงาน เช่น ใช้หลอดผอมจอมประหยัด หรือ ใช้หลอดตะเกียบ
14. ควรใช้โคมไฟแบบมีแผ่นสะท้อนแสงในห้องต่าง ๆ เพื่อช่วยให้แสงสว่างจากหลอดไฟ กระจายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
15. หมั่นทาความสะอาดหลอดไฟที่บ้าน อย่างน้อย 4 ครั้งต่อปี เพราะจะช่วยเพิ่มแสงสว่าง โดยไม่ต้องใช้พลังงานมากขึ้น
16. ควรตั้งโคมไฟที่โต๊ะทางาน แทนการเปิดไฟทั้งห้องเพื่อทางาน
17. ควรใช้สีอ่อนทาผนังนอกอาคารเพื่อการสะท้อนแสงที่ดี และทาภายในอาคารเพื่อทาให้ห้องสว่างได้มากกว่า
18. ปิดตู้เย็นให้สนิท ทาความสะอาดภายในตู้เย็น และแผ่นระบายความร้อนหลังตู้เย็นสม่าเสมอ
19. อย่าเปิดตู้เย็นบ่อย และอย่านาของร้อนเข้าแช่ในตู้เย็น เพราะจะทาให้ตู้เย็นทางานหนักขึ้น กินไฟมากขึ้น
20. ตรวจสอบขอบยางประตูของตู้เย็นไม่ให้เสื่อมสภาพ เพราะจะทาให้ความเย็นรั่วออกมาได้

รณรงค์ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง

ขับรถยังไงให้ประหยัดในช่วงน้ำมันแพง...

.จากสถานการณ์วิกฤตพลังงานที่กระทบกันทั่วโลก ส่งผลทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ เติมน้ำมันแต่ละครั้งก็จ่ายเงินอยู่ไม่น้อย วันนี้น้อง ENGY มีวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยให้ทุกคนขับรถได้ประหยัดขึ้นในช่วงราคาน้ำมันแพง

.1. วางแผนเส้นทางก่อนเดินทาง หลีกเลี่ยงเส้นทางที่การจราจรติดขัด

การวางแผนเส้นทางก่อนเดินทางจะช่วยประหยัดเวลา และลดการสิ้นเปลืองของน้ำมันจากการขับรถออกนอกเส้นทาง

.2. ตรวจสอบเครื่องยนต์ให้พร้อมใช้งาน

หมั่นตรวจสอบสภาพรถ และสภาพเครื่องยนต์ตามเวลาที่กำหนด บำรุงรักษาอุปกรณ์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ เพื่อช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองของน้ำมันเชื้อเพลิงและยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง

.3. ไม่บรรทุกของหนักเกินจำเป็น

การบรรทุกของหนักเกินจำเป็น จะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักและมีผลต่ออัตราการสิ้นเปลืองของน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มมากขึ้น

.4. เติมลมยางให้เหมาะสม

หมั่นตรวจสอบและเติมลมยางให้เหมาะสม ลมยางที่อ่อนเกินไปจะทำให้อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มมากขึ้น

.5. ขับรถในความเร็วที่เหมาะสม

ขับรถที่ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง จะช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น

.6. ไม่เปลี่ยนเลนบ่อย

เพื่อลดการเร่งเครื่องและหยุดรถกะทันหัน ช่วยประหยัดน้ำมัน ถนอมผ้าเบรกและจานเบรกให้ใช้ได้นานขึ้น.

7. ไม่ติดเครื่องยนต์ขณะจอดรถ

การติดเครื่องยนต์ขณะจอดรถนอกจากจะเป็นการสร้างมลพิษให้กับอากาศแล้ว ยังทำให้สิ้นเปลืองน้ำมัน เพราะการจอดติดเครื่องเพียง 5 นาที ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันถึง 3 ลิตร

น้อง ENGY เชื่อว่าหากทุกคนปฏิบัติตามวิธีข้างต้น จะช่วยประหยัดเงินค่าน้ำมันได้มากทีเดียว นอกจากนี้ยังเป็นการประหยัดพลังงานให้กับประเทศ ช่วยยืดอายุการใช้งานของรถยนต์ และลดมลพิษบนท้องถนนด้วย

ที่มา: กระทรวงพลังงาน และกระทรวงคมนาคม

Submit to FacebookSubmit to Google PlusSubmit to TwitterShare with friendsPrint this page

ร้องเรียน ร้องทุกข์

แบบประเมินความพึงพอใจ สำหรับผู้รับบริการ (องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น)

 

LINE OA อบต.หนองสะโน

เพิ่มเพื่อน

สแกน QR Code เพื่อประเมินทันที เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส (EIT)